สำหรับการหาเงินออนไลน์หรือทำงานผ่านเน็ต การหารายได้พิเศษด้วยงานออนไลน์ ก็มีให้เห็นหลายหลากวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ การทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต และอื่นๆ ซึ่งก็ถือเป็นช่องทางที่ดีเพราะการทำงานออนไลน์ เป็นการหาเงินที่สะดวกอยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้ หาเงินออนไลน์ได้เป็นรายได้พิเศษหรืออาจจะเป็นรายได้หลักของใครหลายๆ คนอีกด้วย
ซึ่งในวันนี้ moohin.com จะมาแนะนำวิธีการหาเงินออนไลน์ ที่ลงทุนน้อยหรือแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่สามารถทำรายได้ ได้ในระยะยาว ซึ่งน่าจะเหมาะกับเศรษฐกิจของสถานการณ์ในปี 2023 แบบนี้ ที่รายได้ที่เคยได้รับไม่แน่นอน งานที่ทำก็ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหนจึงต้องมีรายได้พิเศษหลายๆ ทางเพื่อความมั่นคงของตัวเอง ส่วนจะมีวิธีหาเงินออนไลน์ด้วยวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย
Freelance (Fastwork เขียนบทความ, แปลภาษา, คีย์ข้อมูล)
Fastwork หนึ่งในเว็บไซต์ที่ใครเป็นฟรีแลนซ์ต้องรู้จัก เพราะเป็นเว็บที่จะช่วยหางานหาเงินมาให้กับฟรีแลนซ์ ซึ่งเว็บจะเป็นแหล่งรวมฟรีแลนซ์อาชีพต่างๆ เช่น Graphic & Design, การตลาดและโฆษณา, เขียนและแปลภาษา, ภาพและเสียง, Web & Programming, ปรึกษาและแนะนำ, จัดการร้านค้าออนไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าเป็นแหล่งทำเงินให้กับคนที่เป็นฟรีแลนซ์เลยก็ว่าได้
ซึ่งวิธีการที่จะรับงานจาก Fastwork เพียงแค่คุณสมัครเป็นฟรีแลนซ์ หรือสมาชิกของเว็บ จากนั้นก็ฝากประวัติ แนะนำตัวเอง ฝากผลงานที่เคยทำมา ข้อมูลติดต่องาน และที่สำคัญคือเรทราคาในการรับงานประมาณไหน จากนั้นก็รอลูกค้าที่จะติดต่อมาผ่าน Fastwork ซึ่งขั้นตอนการรับงาน ส่งงาน ไปจนถึงการรับเงิน จะเป็นการดำเนินการผ่าน Fastwork โดยจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้
- ลงขายงานที่ต้องการบน Fastwork
- เพื่อให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาผลงานประกอบการตัดสินใจในการว่าจ้าง
- คุยรายละเอียดและเสนอราคากับผู้ว่าจ้าง
- Fastwork จะทำหน้าที่หาผู้ว่าจ้างเข้ามาให้คุณ
- ซึ่งระบบจะไม่อนุญาตให้คุณส่ง LINE, เบอร์โทรศัพท์, Email ให้ผู้ว่าจ้าง
- คุณต้องกดปุ่ม เสนอราคา เพื่อเสนอราคาก่อน ผู้ว่าจ้างจึงจะกดจ้างได้
- รอผู้ว่าจ้างชำระเงินผ่านระบบ เพื่อเริ่มทำงาน
- เมื่อชำระเงินแล้ว คุณสามารถแลกเปลี่ยน LINE, เบอร์โทรศัพท์, Email ได้
- อย่าเริ่มทำงาน หากยังไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
- ส่งงานและรอผู้ว่าจ้างอนุมัติงาน
- โดยการใช้ปุ่ม อัพโหลดงานขั้นสุดท้าย เพื่อส่งงานขั้นสุดท้ายเพื่อให้ผู้ว่าจ้างอนุมัติ
- ให้เรตติ้งและรีวิว
- ให้เรตติ้งและรีวิวกับฟรีแลนซ์ เพื่อเป็นผลงานหรือเครติดของฟรีแลนซ์
ขายภาพออนไลน์
การขายภาพออนไลน์ ก็คือการที่เรานำเอาภาพถ่ายที่เราถ่ายเองไปฝากขายยังเว็บขายภาพ ซึ่งเว็บฝากภาพในปัจจุบันก็มีมากมายหลายเว็บด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น shutterstock, iStockphoto, Dreamstime, Fotolia, Depositphotos และอีกมากมาย สามารถเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกได้แบบฟรีๆ
ซึ่งเว็บเหล่านี้ก็จะเป็นเสมือนเป็นตัวกลางในการขายภาพถ่ายของเรา ซึ่งภาพที่ขายได้นั้นไม่ได้เป็นการขายขาดแต่อย่างใด นั้นหมายความว่า 1 ภาพสามารถขายได้ซ้ำตลอด ยิ่งหากภาพของเรามีจุดเด่นและตรงกับความต้องการของลูกค้าหลายๆ กลุ่มแล้ว ภาพนั้นอาจสร้างรายได้ ได้หลายหลักเลยก็ได้
ถามว่ากลุ่มลูกค้าคือใคร และจะเอาภาพไปใช้ทำอะไร? ซึ่งจากการยกสถิติจากเว็บ shutterstock ลูกค้าส่วนใหญ่ถึง 80% จะเป็นลูกค้าที่อยู่ในฝั่งยุโรปและอเมริกา ที่จะนำเอาภาพไปประกอบกับธุรกิจของตนเอง เช่นการทำ Packaging สินค้า, ทำโปรเตอร์โฆษณา, ประกอบบทความ, ภาพประกอบบนเว็บไซต์ และอื่นๆทางธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่าภาพที่จะนำไปใช้ต้องเป็นภาพที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง จะได้ไม่มีเรื่องฟ้องร้องกันในภายหลัง
ส่วนวิธีการขายภาพก็ทำได้ง่ายๆ โดยต้องมีคุณสมบัติ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป มีกล้องถ่ายภาพ(ใช้มือถือก็ได้) ภาพที่ถ่ายจะแต่งหรือไม่แต่งก็ได้ แต่ภาพนั้นต้องมีรายละเอียดของภาพที่ชัดเจน เช่น ภาพมีขนาด 6 ล้านพิกเซลขึ้นไป, ภาพได้ขนาดสเกลที่ได้มาตรฐานที่เว็บกำหนด, มีความสวยงามไม่ติดแบรนด์สินค้า หรือมีโฆษณาแอบแฝง ซึ่งแต่ละเว็บที่เป็นตัวกลางก็จะมีการตรวจสอบภาพทุกครั้ง จึงจะอนุมัติให้ทำรายได้หรือขายบนเว็บได้
เทคนิคในการขายภาพออนไลน์
- เลือกเว็บฝากภาพที่มีคนเข้าชมเยอะๆ ศึกษาวิธีการในการขายภาพของเว็บนั้นให้ดี
- ถ่ายภาพตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด เน้นองค์ประกอบภาพที่ชัดเจน สื่อความหมายของภาพให้ได้
- ตั้งชื่อภาพ และคำอธิบายเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา และที่สำคัญคือต้องสอดคล้องกับความหมายของภาพ
- คุณภาพของภาพถ่ายต้องได้มาตรฐาน ทั้งขนาดภาพ และรายละเอียดภาพ
- ภาพนั้นๆ ควรมีทั้งแนวตั้ง และแนวนอน
- เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีก่อน เพื่อให้คนเข้ามาติดตามผลงานในช่วงแรกๆ
Website (Google AdSense)
การหาเงินออนไลน์ด้วย Google AdSense นั้น เป็นวิธีหาเงินสำหรับคนที่มีเว็บไซต์ หรือบล็อก เป็นของตัวเอง ซึ่งวิธีก็คือ เริ่มจากการสมัคร Google AdSense ก่อนเพื่อรับ Code จากทาง Google มาติดตั้งในเว็บไซต์ของคุณ
ซึ่ง Code ที่ได้มานั้นจะเป็นโฆษณาที่ส่งมาจาก Google ซึ่งโฆษณานั้นจะปรากฎขึ้นในหน้าเว็บของคุณ โดยโฆษณาจะมีหมวดหมู่ที่สอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่จะปรากฎก็อาจเป็นแนว จองที่พัก, โรงแรม, สายการบิน เป็นต้น ซึ่งโฆษณาที่ Google ส่งมาจากนั้นจะมีทั้งแบบ Text, รูปภาพ หรือวีดีโอ มีหลายแบบ หลายขนาด คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการโฆษณาแบบไหนถึงจะเหมาะกับพื้นที่บนหน้าเว็บของคุณ
รายได้จาก Google AdSense (website) จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ผลตอนแทนจาก Google AdSense จะเกิดจากการคลิกและการแสดงโฆษณา มีวิธีคำนวณรายได้ แบ่งออกเป็นหลักๆ 2 ประเภท ดังนี้
- จ่ายผลตอบแทนเมื่อคลิก (Pay Per Click – PPC) เมื่อมีผู้เยี่ยมเว็บไซต์ได้คลิกที่โฆษณาของ Google ทำให้เว็บไซต์ได้รับผลตอบแทนทันที เมื่อมีการคลิกโดยแต่ละโฆษณาที่คลิกจะได้รับผลตอบแทนไม่แน่นอน ผลตอบแทนมาก หรือน้อย นั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ลงโฆษณากับ Google AdWords ว่าลงโฆษณาได้ในราคาที่สูงหรือต่ำ
- จ่ายผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression – CPM) ผลตอบแทนนี้จะได้ที่การแสดงโฆษณา เมื่อมีผู้เข้ามาที่เว็บไซต์ และโฆษณาของ Google แสดงขึ้น ก็จะเกิดรายได้จากการแสดงโฆษณา โดยรายได้จะเกิดเมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และมีการแสดงโฆษณารันครบ 1,000 ครั้ง
YouTuber (Google AdSense)
นอกจากการหาเงินออนไลน์จาก Google AdSense ด้วยการทำเว็บไซต์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีนอกจากการทำเว็บนั้นก็คือการทำสื่อ Video อัพโหลดผ่าน Youtube
หลายคนยังสงสัยว่าการหาเงินจาก Google AdSense ใน Youtube ทำได้อย่างไร? ซึ่งการเปิดรับรายได้จาก Google AdSense ก็คือโฆษณาที่ปรากฎก่อนคลิปจะเล่น หรือระหว่างคลิป อาจจะประมาณ 5-30 วินาที, 1 นาที หรือมากกว่านั้น กดข้ามได้, ข้ามไม่ได้ สามารถเลือกรูปแบบของโฆษณาที่จะแสดงในคลิปได้ ดังนั้นแล้วหากใครที่ไม่ถนัดในการทำเว็บไซต์ แต่มีความสามารถให้การทำ content ที่เป็นสื่อวีดีโอ ก็สามารถหาเงินออนไลน์ได้ง่ายๆ กับ Google AdSense
เงื่อนไขในการเปิดสร้างรายได้จาก Google AdSense สำหรับ Youtube
- ช่อง Youtube และคลิปที่อัพโหลดในช่องนั้น จะต้องเป็นไปตามนโยบายและหลักเกณฑ์ที่ Google กำหนด
- ช่อง Youtube ต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คน และมีเวลาในการรับชมแบบสาธารณะรวมเกินกว่า 4,000 ชั่วโมง
- จะต้องมีบัญชี AdSense เพื่อรับเงินเพียง 1 บัญชีเท่านั้น
- เงื่อนไขอื่นๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ >> วิธีสร้างรายได้จาก YouTube
สำหรับใครที่ยังไม่เปิดสร้างรายได้กับ Youtube ก็ต้องสมัครเข้าร่วม YPP หรือ YouTube Partner Program ก่อน ซึ่งแน่นอนว่าช่องที่จะสามารถสมัคร YPP ได้ก็ต้องผ่านเกณฑ์ของทาง Google กำหนดไว้ ที่กล่าวมาในข้างต้น จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ลงชื่อเข้าใช้ YouTube
- เลือกไปที่ไอคอนบัญชี ที่มุมขวาบน เลือก “Youtube Studio“
- จากนั้นมาที่เมนูทางด้านซ้ายของจอ “การสร้างรายได้“
- คลิกที่ปุ่ม “เปิดสร้างรายได้“
นอกจากรายได้จากทาง Google แล้ว ปัจจุบันทาง YouTube ยังมีรายได้จากช่องทางอื่นๆ ได้อีกอย่าง
- การสมัครเป็นสมาชิกของช่อง เป็นการจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายเดือน สำหรับผู้ชมที่ต้องการที่จะสนับสนุนช่องนั้น ซึ่งสมาชิกที่สมัครก็จะได้สิทธิพิเศษที่เจ้าของช่องนั้นมอบให้
- รายได้จาก YouTube Premium ได้รับค่าบริการส่วนหนึ่งของ YouTube Premium เมื่อมีผู้ที่สมัครใช้บริการรับชมเนื้อหาของช่อง
- Super Chat การชำระเงินของคนดู เพื่อไฮไลต์ข้อความในแชทของการสตรีมสด
Affiliate Program (Shopee, Lazada)
อีกหนึ่งช่องทางสำหรับคนที่มี เว็บไซต์/บล็อก เป็นของคุณเอง ซึ่ง Affiliate (แอฟฟิลิเอท) นี่จะเป็นโปรแกรมที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคุณแบบง่ายๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ เราจะอธิบายง่ายๆ คือหากเปรียบการทำ Affiliate ในรูปแบบ Offline ก็เหมือนกับคุณเป็นนายหน้าขายที่ดิน คุณไม่จำเป็นต้องมีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่คุณมีพื้นที่หรือช่องทางในการลงประกาศขาย เมื่อมีคนมาซื้อที่ดินโดยติดต่อผ่านคุณ คุณก็จะได้รับค่านายหน้า ซึ่งจะเรียกว่าการขายของผ่าน Affiliate ก็ว่าได้
เช่นเดียวกับการทำ Affiliate เพียงคุณไปสมัครเป็น Partner กับเว็บต่างๆ อย่าง Shopee, Lazada เพื่อที่จะได้ Code มาติดในเว็บเพื่อให้โฆษณาสินค้าปรากฎขึ้นบนหน้าเว็บ เมื่อมีคนเข้ามากดซื้อผ่านหน้าเว็บ คุณก็จะได้รับ “ค่าคอมมิชชั่น” หรือได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขายนั่นเอง
การขายของ Affiliate Marketers มีกี่แบบ
- Pay Per Sale (PPS) จะจ่ายเงินเมื่อมีการขายสินค้าเกิดขึ้น โดยจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายของสินค้า/บริการนั้นๆ หรือค่าคอมมิชชั่นนั้นเอง ซึ่งเรทก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสินค้า/บริการนั้นๆ
- Pay Per Lead (PPL) จะมีการจ่ายเงินให้ เมื่อมีคนมาสมัคร หรือ ลงทะเบียนผ่านลิงก์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้า/บริการ ประเภท บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต ประกัน เป็นต้น
- Pay Per Click (PPC) คล้ายกับการทำ Google Adsense คือจะมีการจ่ายเงินให้กับผู้ที่โฆษณาต่อคลิก ไม่ว่าการคลิกนั้นๆ จะสามารถขายสินค้าได้ หรือ ขายไม่ได้ก็ตาม เพียงแค่มีการคลิกก็ได้เงินทันที
ดังนั้นก่อนที่คุณจะเริ่มทำ Affiliate คุณจำเป็นต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อที่จะนำป้ายแบนเนอร์โฆษณาที่มีลิงก์ Affiliate ไปติดตั้งในเว็บไซต์ของคุณ และเป็นข้อมูลสำคัญที่ร้านค้าต่างๆ ที่เปิดรับนายหน้าเพื่อโปรโมทสินค้าให้กับร้านค้า (Affiliate Program) จะขอ และพิจารณาก่อนเสมอ ว่าจะให้คุณเข้าร่วมหรือไม่
สรุป 4 ขั้นตอน ในการเริ่มต้นทำรายได้จาก Affiliate
- สร้างเว็บไซต์, บล็อก หรือ Facebook Page และอัพเดท Content ที่น่าสนใจ เพื่อที่จะนำลิงก์ Affiliate ไปติดในเว็บ
- สมัคร Affiliate Program เพื่อรับลิงก์ Affiliate ไปติดในเว็บ
- หลังจากติด ลิงก์ Affiliate แล้ว ก็พัฒนาและอัพเดทเว็บให้น่าสนใจ หรือจะให้วิธีการโปรโมชก็ได้ เพื่อให้คนเข้าถึงมากขึ้น
- รอผู้ใช้มาซื้อสินค้าหรือบริการ ผ่านลิงก์ของคุณ เพื่อที่จะได้รับค่าคอมมิชชั่น
เขียนบล็อกสร้างรายได้กับ Blockdit
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Blockdit อ่านว่า บล็อก-ดิต ที่มาก็คือมาจากคำว่า Block + Edit รวมกันเป็น Blockdit ซึ่งความหมายของ Block คือการนำเสนอในรูปแบบการอ่านเป็น Block หรือ กล่องข้อความ ทำให้อ่านง่ายไม่น่าเบื่อ อีกทั้งยังแทรกรูปได้เป็นบล็อกๆ
ส่วน Edit คือ การเปิดให้ทุกคนเขียนบทความ เรื่องราวของตัวเองได้ เป็นแหล่งที่ทุกคนในสังคมแบ่งปันความรู้กัน ทุกคนสามารถเป็น Editor หรือ บรรณาธิการของเพจตนเองได้
Blockdit เป็นแอปโซเชียลมีเดีย ที่พัฒนาโดยคนไทย โดยมีจุดประสงค์ที่จะเปิดพื้นที่ให้กับผู้ที่รักในการอ่าน ได้อ่านบทความ ข้อมูล ข่าวสาร ที่มีคุณภาพ รวมไปถึงคนที่รักในการเขียนที่จะมีพื้นที่แบ่งปัน content คุณภาพที่สามารถทำรายได้พิเศษได้ด้วย
Blockdit จึงเป็นแหล่งรวมบทความ ข้อมูล และข่าวสาร ที่ทุกคนสามารถแชร์กันได้ ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่เชื่อมความคิดดีๆ เข้าด้วยกัน
จะหารายได้จากการเขียน Content กับ Blockdit ได้อย่างไร
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ จากการเขียนบทความลงใน Blockdit เขื่อนไขแรก คุณต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คนจึงจะสามารถเปิดปุ่ม “การหารายได้” ได้ โดยบทความที่เขียนจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้
- บทความที่เขียนจะต้องเขียนขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง และไม่ได้คัดลอกงานของผู้อื่น ไม่เคยโพสที่อื่นมาก่อน
- ในส่วนของงานที่แปลข้อมูลจะต้องเรียงเรียงใหม่ไม่ให้คล้างคลึงกับต้อนฉบับมาก และต้องอ้างอิงแหล่งที่มา รวมทั้งให้เครดิตต้นฉบับด้วย
- บทความจะต้องมีอย่างน้อย 200 คำต่อบทความ หรือหากมีไม่ถึงจะต้องมีรูปประกอบที่ทางผู้เขียนจัดทำขึ้นเอง พร้อมกับเครดิต Blockdit ติดอยู่ในรูปด้วย
- ห้ามมีการเสนอรางวัล หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการดึงยอดการอ่านจากผู้เข้าชม
ดูวิธีหารายได้จาก Blockdit เพิ่มเติม >> คลิก
Trade หุ้น หรือ เล่นหุ้น
หลายๆท่านต้องเคยได้ยินการหาเงินจากหุ้นมาบ้าง ซึ่งการหาเงินออนไลน์ด้วยวิธีนี้มีความเสี่ยงปานกลางไปจนถึงมาก เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยการศึกษาเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย การเล่นหุ้นคือการลงทุน เริ่มต้นจากการเปิดบัญชีหุ้นกับทางธนาคารหรือโบรกเกอร์ หากใครยังไม่เคยได้ยินคำนี้มากก่อนสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ โบรกเกอร์ ได้เช่นกัน
บัญชีหุ้นนั้นเปรียบเสมือนบัญชีเงินฝากของเราที่ต้องใช้เงินนั้นซื้อหุ้นมาเป็นของตัวเอง เอาเงินของเราไปร่วมลงทุนกับบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็คือ เราเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่ลงทุนนั่นเอง จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้น จำนวนเงินที่ลงไป
เราจะได้เงินจากการหาเงินออนไลน์ด้วยวิธีนี้ได้อย่างไร?
- หุ้นมีมูลค่าสูงขึ้นเราจะได้กำไรจากส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นคูณกับจำนวนหุ้นที่ลงไป
- ปันผลที่เกิดจากการปันผลประกอบการของบริษัทที่เราได้ลงไป จะมากน้อยขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท และ ปริมาณหุ้นที่เรามีในบัญชีหุ้น
เทรด Cryptocurrency หรือเทรดสกุลเงินดิจิตอล
เป็นอีกหนึ่งแนวทางการหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความสนใจมากในปัจจุบัน มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนมาก ลักษณะคล้ายกับการเทรดหุ้น แต่เสี่ยงกว่า เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนแบบ High Risk High Return โดยการนำเงินไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิตอล เช่น Bitcoin, Ethereum, Binace Coin, Cardano, Dogecoin และอีกจำนวนมากกว่า 5,000 สกุล การเทรดคริปโตฯ จะต้องมีเงินลงทุนเช่นเดียวกับเทรดหุ้น เงินนั้นควรจะเป็นเงินเย็น หรือ เงินที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งในหลายประเทศถูกนำสกุลเงินเหล่านี้มาใช้กับการซื้อสินค้า บริการ และอีกหลายประเทศยังไม่รองรับด้วยเหตุผลที่สกุลเหล่านี้มีความผันผวนสูง จับต้องไม่ได้
สำหรับการเทรดในปัจจุบันสามารถเทรดได้ผ่านแอปมือถือ เพียงแค่ติดตั้งแอป Binance, Coinbase, Huobi, KuCoin, Zipmex, Bitkub และอีกมากมาย สำหรับใครที่จะลงทุนแนะนำว่าต้องประเมินความเสี่ยง ทั้งเงินทุน เหรียญหรือสกุลที่เราจะลงทุน ว่าสร้างขึ้นมาเพื่อปั่นราคาดึงเงินนักลงทุนหรือไม่
หากชื่นชอบบทความของเรา ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นไอเดียในการหาเงินออนไลน์ให้กับท่านนำไปใช้หรือต่อยอดสร้างรายได้ได้จริง